บริการ รับเขียนแบบบ้านและอาคารทุกประเภท สนใจติดต่อ0959518346
เข้าชมแบบแปลนบ้านและอาคารต่างๆในเว็บไซต์ คลิกที่นี่ http://planbaanthaidd.blogspot.com/
Tags แบบบ้าน แบบทาวน์เฮ้าส์ แบบอาคารพาณิชย์ แบบอพาร์ทเม้นท์ แบบโรงงาน แบบตึกแถว
แบบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น,แบบบ้านชั้นเดียว,แบบบ้าน2ชั้น,แบบบ้านไทย,แบบอพาร์ทเม้นท์,
แบบทาวน์เฮ้าส์2ชั้น,แบบโรงงาน,แบบทาวน์โฮม,แบบโฮม,แบบบ้านแฝด,โฮมออฟฟิศ,แบบโกดัง
มรดกแห่งภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย งานศิลป์ที่สั่งสมองค์ความรู้ในการ
แก้ปัญหา และเคารพสภาพแวดล้อมได้อย่างมีเหตุผล รายละเอียดและองค์
ประกอบของเรือนไทยทุกส่วน จึงล้วนมีที่มาที่ไปเหมาะสมและสอดคล้อง
กับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และขีดจำกัดของโครงสร้างบ้านในยุคนั้น หากเรามอง
ลึกเข้าไปในรายละเอียด ดีไซน์เหล่านี้ยังสามารถนำมาปรับใช้กับบ้านสมัย
ใหม่ได้เป็นอย่างดี เราลองมาศึกษารายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในเรือนไทย ว่ามี
อะไรบ้างที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับบ้านในยุคนี้ได้
ใต้ถุนสูง
เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเรือนไทย ในอดีตคนไทยมักจะปลูกเรือนติด
ริมน้ำ เพื่อความสะดวกในการสัญจรทางน้ำและการประกอบอาชีพกสิกรรม
ตัวเรือนจึงถูกออกแบบให้ยกสูงเพื่อป้องกันน้ำท่วมบ้านในฤดูน้ำหลาก นอก
จากนี้เรายังสามารถใช้พื้นที่ใต้ถุนเป็นที่พักผ่อน ทำงาน เลี้ยงสัตว์ เก็บของใช้
ป้องกันโจรและสัตว์ร้ายขึ้นเรือน เนื่องจากบันไดของเรือนไทยสามารถยกเก็บ
เข้าบ้านได้
ในแง่ของการออกแบบแล้ว ใต้ถุนที่โล่งจะช่วยให้ลมพัดผ่านสะดวกมากขึ้น
และตัวเรือนด้านบนยังเป็นเกราะป้องกันความร้อนให้พื้นที่ใต้ถุนได้เป็น
อย่างดี เมื่อประโยชน์ของใต้ถุนมีมากขนาดนี้ ใครที่กำลังคิดปลูกบ้านถึงแม้
จะไม่ใช่ทรงไทยก็ตาม อย่าลืมทำใต้ถุนให้บ้านด้วยนะครับ นอกจากนี้การ
ปลูกต้นไม้และพืชคลุมดิน ยังทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆบริเวณใต้ถุนและ
บ้านดูร่มรื่นเย็นสบายด้วยครับ
“การเข้าสลัก-เดือย
จุดเด่นอีกอย่างของเรือนไทยก็คือ เป็นเรือนประกอบที่สามารถถอดแยกส่วน
ได้ง่าย หรือจะเรียกว่าบ้านสำเร็จรูปก็ไม่น่าจะผิดนัก เพราะวิธีการปลูกเรือน
ไทย ช่างจะปรุงเรือนแยกชิ้นส่วนโครงหลังคา พื้น ฝาผนัง ประตู-หน้าต่าง
บันได บนพื้นดิน จากนั้นจึงนำมาเข้าลิ้นสลัก-เดือยบนตำแหน่งที่จะปลูกเรือน
ซึ่งเทคนิคเข้าสลัก-เดือยนี้ เป็นเสน่ห์งานหัตถกรรมและสะท้อนถึงภูมิปัญญา
ของช่างปรุงเรือนไทยได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์ (KNOCK DOWN) กำลังเป็นที่นิยม เพราะ
ความสะดวกในการติดตั้ง อีกทั้งงานตกแต่งภายในก็ต้องการความยืดหยุ่น
ของการจัดพื้นที่ห้องให้หลากหลายขึ้น หากใครจะลองนำลักษณะการเข้า
สลักเดือยนี้ไปใช้ดีไซน์ร่วมกับงานออกแบบก็ไม่เลวนะครับ เช่น บันไดขึ้น
เรือนอาจนำมาดัดแปลงเป็นชั้นหนังสือแบบถอดประกอบได้
ซุ้มทางเข้าและหอนก
ซุ้มทางเข้า เป็นองค์ประกอบเล็กๆที่ทำให้เรือนไทยมีเอกลักษณ์โดดเด่น และ
ยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านดูอบอุ่น ในเชิงดีไซน์ยังช่วยแบ่งขอบเขตระหว่าง
ภายนอกและภายในบ้าน ให้ผู้มาเยือนรู้สึกว่าได้เข้ามาในพื้นที่ของบ้านแล้ว
“หอนก” คือ ศาลาเล็กๆที่ใช้สำหรับปลูกไม้ดอก หรือแขวนกรงนกต่างๆ เช่น
นกเขา นกขุนทอง ซึ่งเป็นงานอดิเรกของคนในสมัยก่อน และใช้เป็นที่นั่งเล่น
รับลมของสมาชิกในบ้าน อีกทั้งเมื่อเรามองจากนอกบ้าน หอนกยังช่วยลด
ทอนขนาดของบ้านให้ดูมีมิติมากขึ้น
บ้านใครที่ยังพอมีพื้นที่บริเวณบ้านเหลือพอ และอยากมีส่วนนั่งเล่นใต้ชาย
คานอกบ้านเพิ่ม อาจปลูกศาลาเล็กๆที่เข้ากับสไตล์บ้านสักหลัง หรือใครที่
รู้สึกว่าบ้านเรามีขนาดใหญ่เทอะทะ ลองเอาประโยชน์การลดทอนขนาดของ
หอนกมาใช้ทำให้บ้านดูมีมิติมากขึ้นได้นะครับ
ชานเรือน
เรือนไทยมีลักษณะเป็นเรือนหมู่ มีชานเป็นตัวเชื่อมระหว่างเรือนแต่ละหลัง
เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถต่อเติมเรือนหลังใหม่ได้สะดวก เมื่อลูกสาวออก
เรือนมีครอบครัวใหม่ (คนไทยสมัยก่อนเมื่อแต่งงานแล้ว ฝ่ายชายจะย้ายไป
อยู่บ้านฝ่ายหญิง) เพราะไม่ต้องยุ่งกับโครงสร้างเดิมของเรือนเก่า พื้นชาน
เรือนไทยจะตีเว้นร่อง เพื่อให้ลมจากใต้ถุนพัดขึ้นมาได้ และช่วยให้ไม้
สามารถยืดหดตัวได้โดยไม่โก่งงอ อีกทั้งยังเป็นช่องระบายน้ำเวลาฝนตก
อาบน้ำ และป้องกันไม่ให้น้ำขังบนชานจนเป็นสาเหตุให้ไม้ผุได้ หน้าที่สำคัญ
อีกอย่างของชานคือ เป็นลานกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งช่วยไม่ให้เราอุดอู้อยู่แต่
ในบ้าน
ใครอยากเพิ่มพื้นที่สัมผัสธรรมชาตินอกบ้าน อาจนำชานหรือระเบียงแบบ
เรือนไทยมาใช้ดูนะครับ หรือบ้านไหนที่ปูระเบียงไม้นอกบ้าน เทคนิคการปู
พื้นไม้เว้นร่องของเรือนไทยก็เป็นไอเดียที่ดีทีเดียว
รั้วโปร่ง
รั้วของชานบ้านเรือนไทยเป็นส่วนช่วยกั้นขอบเขตและสร้างความเป็นส่วน
ตัวให้บ้าน ลักษณะคล้ายผนังบ้านยื่นต่อออกมาจากตัวเรือน บางส่วนเจาะ
เป็นช่องลูกกรงเพื่อระบายอากาศ อีกทั้งยังเป็นช่องที่คนในบ้านสามารถ
มองออกไปเห็นคนข้างนอกได้ด้วย
เราอาจนำเอาลักษณะรั้วของชานบ้านเรือนไทยมาประยุกต์กับระเบียงบ้านชั้น
2 ของบ้านสมัยใหม่ เพราะพื้นที่ระเบียงมักเป็นส่วนที่เราไม่ค่อยได้ออกไปใช้
บ่อยนัก (อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะบ้านที่ปลูกติด
กัน) เพื่อให้ระเบียงบ้านของเราสามารถใช้งานได้และเป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่
ยังเป็นที่นั่งเล่นรับลมได้เหมือนเดิม
ช่องแมวลอด ร่องตีนแมว
เป็นช่องว่างระหว่างชานกับพื้นเรือน สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ยาว
ตลอดแนวเรือน เป็นช่องที่ช่วยรีดลมจากใต้ถุนขึ้นมาบนพื้นชาน เพื่อให้
บริเวณชานบ้านเย็นสบาย ด้วยระดับความสูงพอเหมาะจะนั่งหย่อนขาได้สบาย
ช่องแมวลอดจึงเป็นที่นั่งเล่นหรือทำงานของคนสมัยก่อนด้วย อีกทั้งบ้านที่ยก
ฐานสูงจากระดับพื้นยังดูเด่นและมีมิติมากกว่าบ้านไม่ยกระดับ
ในการออกแบบบ้านสมัยนี้ก็เช่นกัน ถ้าคิดจะเล่นระดับพื้นบ้านไม่ว่าจะเป็น
ภายในหรือภายนอกบ้าน ให้มีมิติและสามารถใช้เป็นที่นั่งเล่นได้ด้วย ก็ลอง
หยิบยืมระดับความสูงของช่องแมวลอดมาใช้ได้ครับ
เฉลียง หรือระเบียงหน้าห้อง
เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างภายนอกและภายในห้อง เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยใน
ร่มมากขึ้น หลังคาคลุมเฉลียงจะยื่นยาวออกมาจากกันสาด ปลายอีกด้านจะ
วางอยู่บนเสาเฉลียง พื้นที่ส่วนนี้นอกจากจะเป็นส่วนอเนกประสงค์แล้ว ยัง
ช่วยกรองแสงและปรับสภาพ ไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกาย
เร็วเกินไปในขณะที่เราเดินเข้า-ออกบ้าน จนเป็นสาเหตุให้ไม่สบายได้
การออกแบบประตูทางเข้า-ออกบ้านให้มีหลังคายื่นคลุม (CANOPY) เช่น
เดียวกับเฉลียงของเรือนไทย จึงช่วยป้องกันทั้งอากาศร้อนไม่ให้ไหลผ่านเข้า
บ้านได้โดยตรง และยังสามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นภายนอกได้ด้วยครับ
หน้าต่าง
รูปร่างหน้าตาขึ้นอยู่กับหน้าที่ใช้สอย หรือ “FORM FOLLOWS FUNCTION”
เป็นปรัชญาการออกแบบที่บรรพบุรุษไทยนำมาใช้ออกแบบเรือนไทย สังเกต
ได้จากระดับความสูงของหน้าต่างของเรือนไทยที่สูงจากพื้นเพียง 30-40
เซนติเมตรเท่านั้น เพราะปรกติคนสมัยก่อนจะนั่งและนอนกับพื้น ความสูง
หน้าต่างจึงต้องออกแบบให้อยู่ในระดับที่ลมพัดผ่านกระทบร่างกายได้ อีกทั้ง
คนบนเรือนยังสามารถชะโงกมองออกมาหน้าต่างได้โดยไม่ต้องลุกยืนด้วย
การออกแบบบ้านในสมัยนี้เช่นกัน ควรจะคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยระหว่าง
ภายนอกและภายในด้วย รูปแบบบ้านควรสอดคล้องกับการจัดเฟอร์นิเจอร์
ภายในบ้าน เช่น ถ้าเราจะตกแต่งห้องนอนสไตล์ทรอปิคัล อาจจะไม่ใช้เตียง
นอนแต่ยกระดับพื้นเล็กน้อยแล้ววางฟูก ความสูงของหน้าต่างห้องนี้ก็อาจจะ
มีระดับความสูงต่ำกว่าห้องอื่นๆด้วย
ผนังหายใจได้
หลายคนอาจเคยได้ยินว่า เรือนไทยเป็นบ้านมีชีวิต ทั้งเป็นเพราะเรือนไทยมี
การออกแบบผนังบ้านให้สามารถระบายอากาศได้ ผนังที่ว่านี้ก็คือ “ฝา
สำหรวด” ฝาเรือนที่ทำจากไม้ไผ่หรือไม้กระบอกสานกันบนโครงไม้ค่อน
ข้างถี่ เป็นฝาเรือนที่เหมาะจะใช้เป็นผนังครัว เพราะสามารถระบายอากาศได้
เร็ว
ฝาผนังอีกฝาที่สามารถระบายอากาศได้ คือ “ฝาไหล” ฝาไม้ 2 ชั้นตีเว้นร่อง
สามารถเลื่อนเปิดปิดได้ ลักษณะคล้ายประตูหน้าบานเลื่อนในปัจจุบัน นิยม
ใช้กับผนังส่วนที่ต้องการระบายอากาศหรือในห้องที่ต้องการมองออกไป
นอกบ้านได้ในบางครั้ง
ผนังหายใจได้เหล่านี้น่าจะนำไปใช้ได้หลายอย่างครับ เช่น ให้เป็นบานประตูตู้
เสื้อผ้าหรือตู้อาหาร เพื่อให้ระบายอากาศลดกลิ่นอับในตู้ หรือจะนำไปเป็น
ผนังหรือประตูโรงรถระบายความร้อนก็ได้
หลังคาเรือนไทย
ด้วยภูมิปัญญาที่เข้าใจธรรมชาติ หลังคาเรือนไทยจึงมีความลาดชันมาก เพื่อ
ให้สามารถระบายน้ำฝนได้เร็ว แต่น้ำฝนที่ไหลมาตามความลาดชั้นที่มากนั้น
ย่อมทำให้น้ำฝนมีโอกาสถูกลมพัดเข้าไปในบ้านได้ง่าย ช่างไทยจึงออกแบบ
กันสาดให้มีความลาดชันน้อยกว่าหลังคารองรับน้ำฝนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้น้ำ
ฝนที่ไหลลงมาจากหลังคากระเด็นออกไปให้ห่างจากตัวบ้านมากที่สุดนั่นเอง
และในด้านความสวยงามแล้ว ยังช่วยลดทอนขนาดไม่ใช้หลังคาบ้านใหญ่
เทอะทะเกินไป
องค์ประกอบต่างๆที่ใช้ประยุกต์ให้เข้ากับบ้านสมัยใหม่
ส่วนต่างๆในเรือนไทย ล้วนมีดีไซน์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์สะท้อนถึง
ความเป็นไทย เราสามารถนำลักษณะส่วนนี้มาประยุกต์ใช้ตกแต่งบ้านเพื่อให้
ได้กลิ่นอายแบบไทย หรือจะตกแต่งกับบ้านสไตล์โมเดิร์น เพื่อให้เกิดความ
แตกต่าง (Contrast) ที่ชัดเจนก็ได้ เช่น การใช้ฝาปะกนมาทำเป็นผนังเหนือหัว
เตียงในห้องนอน การประยุกต์เอาร่องตีนช้าง (ส่วนล่างของฝาบ้าน)มาทำเป็น
โต๊ะวางของเตี้ยๆได้
——————————————————————————–
ข้อมูลจากเวบไซต์นิตรสารบ้านและสวน
เรื่อง : ศราวุธ จินตชาติ
ภาพ : ปิยะวุฒิ ศรีสกุล
ข้อมูลนำมาจาก
http://www.bansongthai.com